จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562

เทคนิคการเพาะเลี้ยงกุ้งฝอยในแบบต่างๆ



การเพาะเลี้ยง
เริ่มต้นจากการรวบรวมกุ้งเพศเมียจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวนประมาณ 80-100 ตัว นำมาพักไว้ในกระชังอย่างน้อย 1 คืน
คัดเลือกเฉพาะกุ้งเพศเมียที่มีไข่แก่ มองเห็นตาของลูกกุ้งในท้อง เพาะฟักในตะแกรงที่แขวนไว้ในกระชังผ้า ขนาด 1x1x1 เมตร ในบ่อซีเมนต์หรือบ่อดิน
ให้อาหารสำเร็จรูปที่มีโปรตีน 33% ให้อาหารประมาณ 5% ของน้ำหนักตัว แบ่งให้ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ประมาณ 3-4 วัน ไข่จะฟักออกมาเป็นตัว
แยกแม่กุ้งออกจากกระชัง แล้วคัดลูกกุ้งที่มีขนาดเดียวกัน เพื่อสะดวกในการจัดการเพาะเลี้ยง
นำลูกกุ้งที่ได้ไปอนุบาลในกระชังผ้าโอล่อนแก้ว ปริมาณ 50,000 ตัว ในบ่อขนาด 1x1x1 เมตร
สัปดาห์แรก ให้ไข่แดงต้มสุกเป็นอาหาร สัปดาห์ที่ 2-4 ใช้ไรน้ำจืดขนาดเล็กเป็นอาหาร
จากนั้นจึงให้อาหารสำเร็จรูปชนิดผง เป็นอาหารที่มีโปรตีน 40% ให้อาหารในปริมาณ 10% ของน้ำหนักตัว

*** ระยะนี้ต้องระมัดระวังตาข่ายไม่ให้อุดตัน ควรใช้แปรงขนาดเล็กขนอ่อนทำความสะอาดบ่อยครั้ง
ใช้เวลาอนุบาลเป็นเวลา 1 เดือน จึงนำไปเลี้ยงในกระชังหรือบ่อซีเมนต์ได้

การเตรียมบ่อ
ทำความสะอาดบ่อด้วยปูนขาว ตากทิ้งไว้ 2-3 สัปดาห์ กั้นคอกล้อมบ่อด้วยอวนพลาสติคสีฟ้าเพื่อป้องกันศัตรู
เติมน้ำในบ่อโดยผ่านการกรองด้วยผ้าตาถี่ เพื่อป้องกันไข่ปลาและลูกปลาขนาดเล็กๆ เล็ดลอดลงในบ่อกุ้ง
เติมน้ำสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยขี้ไก่ อัตรา 60-120 กิโลกรัม ต่อไร่ ทิ้งไว้ 3-4 วัน
รอจนน้ำเริ่มสีเขียว จึงเติมน้ำจนได้ระดับ 1 เมตร จากนั้นจึงนำลูกกุ้งที่อนุบาลมาแล้วประมาณ 1 เดือน
ปล่อยลงในบ่อ อัตรา 30,000-50,000 ตัว เลี้ยงประมาณ 2 เดือน ก็สามารถจับขายได้ มีอัตรารอด 80%
ที่สำคัญการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ควรช่วยการหายใจด้วยระบบการเติมออกซิเจนด้วย

เทคนิคการเร่งกุ้งให้วางไข่
ให้นำสายยางน้ำประปามาเปิดลงในบ่อ โดยการเปิดแรงๆ ประมาณ 10-20 นาที
เพราะกุ้งชอบเล่นน้ำไหล แล้วจะดีดตัวทำให้ไข่ตกลงมา (ธรรมชาติน้ำนิ่งกุ้งไม่วางไข่)
ประมาณ 1-2 เดือน กุ้งก็จะโตเต็มที่ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 เดือน
จะได้กุ้งประมาณ 20-30 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท

วิธีการเลี้ยงการเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อพลาสติคคุณจันทร์ ชัยภา ประธานศูนย์เรียนรู้เครือข่ายการเลี้ยงสัตว์อินทรีย์ อ.สีคิ้ว ดูก่อนนะครับ

วิธีการทำ
1.เตรียมบ่อลึก 70 เซนติเมตร กว้าง 2 เมตร ยาว 8 เมตร
2.ปูก้นบ่อด้วยพลาสติกสีดำ นำดินมาเทถมให้ทั่วก้นบ่อบนพลาสติกประมาณ 7-8 เซนติเมตร
3.เติมน้ำลงไปให้เต็มบ่อพอดี ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน
4.นำสาหร่าย ผักตบชะวา หญ้าขน นำมาทิ้งไว้ให้เป็นฟ่อนๆ ประมาณ 4-5 ฟ่อน
5.แล้วปล่อยกุ้งลงไปประมาณ 5 ขีด ช่วงปล่อยกุ้งลงไปไม่ต้องให้อาหารประมาณ 7 วัน เพื่อให้กุ้งปรับสภาพในบ่อ
สำหรับอาหารกุ้ง
1.ต้มไข่ให้สุก เอาเฉพาะไข่แดง 2 ฟอง
2.รำอ่อน 3 ขีด ผสมให้เข้ากัน ปั้นเท่ากำปั้น โยนลงไปในบ่อประมาณ 3 ก้อน
หลังจากให้อาหารประมาณ 1 เดือน กุ้งจะวางไข่ ให้สังเกตตอนกลางคืนโดยการนำไฟฉายมาส่องดุว่ากุ้งจะวางไข่หรือไม่

เทคนิคการเร่งกุ้งให้วางไข่ ให้นำสายยางน้ำประปามาเปิดลงในบ่อ โดยการเปิดแรงๆ ประมาณ 10-20 นาที
เพราะกุ้งชอบเล่นน้ำไหล แล้วจะดีดตัวทำให้ไข่ตกลงมา (ธรรมชาติน้ำนิ่งกุ้งไม่วางไข่)
ประมาณ 1-2 เดือน กุ้งก็จะโตเต็มที่ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 เดือน จะได้กุ้งประมาณ 20-30 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท

สูตรวิธีการช่วยดับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรคในบ่อ และให้กุ้งโตเร็ว
1.EM 2 ช้อนแกง
2.กากน้ำตาล 2 ช้อนแกง
3.น้ำ 1 ลิตร
นำส่วนผสมมาหมักรวมกัน ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม 1 อาทิตย์
อัตราส่วนในการใช้ อีเอ็ม 1 ลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ใส่บัวรดน้ำราดให้ทั่วบ่อ จะใช้หลังจากที่เติมน้ำลงไปก่อนปล่อยกุ้ง
จะช่วยดับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรคในบ่อ กุ้งโตเร็ว
การเลี้ยงกุ้งฝอยในกระชังผ้ามุ้ง
จากปัจจัยที่เห็นว่าปัจจุบันปริมาณกุ้งฝอยในแหล่งน้ำธรรมชาติลดน้อยลง และมีราคาแพง
ทำให้ ดร.บัญชา ทองมี อาจารย์ประจำคณะประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่
ทำการศึกษาวิจัย การเลี้ยงกุ้งฝอยในเชิงการค้า ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี สามารถที่จะเผยแพร่แก่เกษตรกรนำไปเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพได้
ดร.บัญชา บอกว่า ปัจจุบันกุ้งฝอยเริ่มมีปริมาณลดน้อยลง และราคาแพงขึ้น มหาวิทยาลัยแม่โจ้จึงได้ศึกษาวิจัย
การเลี้ยงกุ้งฝอยในเชิงการค้า เนื่องจากมองว่ากุ้งฝอยนั้น ยังเป็นที่นิยมบริโภคของคนไทย เพราะสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารหลายอย่าง
และจากนี้ยังสามารถนำไปเป็นอาหารเลี้ยงอนุบาลลูกปลาเศรษฐกิจได้อีกด้วย จึงว่าน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพได้
ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จนประสบผลสำเร็จ
สามารถเผยแพร่แก่เกษตรกรนำไปเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพได้
- ดร.บัญชาบอกอีกว่า การเลี้ยงได้ 2 วิธี คือ การนำพ่อแม่พันธุ์กุ้ง 50 ตัว
ปล่อยลงในกระชังภายในบ่อเลี้ยงเพื่อให้พ่อแม่พันธุ์กุ้งฝอยผสม พันธุ์กันเอง วิธีนี้ใช้เวลา 2-3 เดือน
แต่จะมีอัตราการรอดชีวิตประมาณ 20-30% อีกวิธีหนึ่งคือ การคัดแม่พันธุ์ที่มีไข่แล้วมาขยายพันธุ์
มีอัตราการรอดชีวิต 80% จึงขอแนะนำเกษตรกรใช้วิธีนี้ เนื่องจากจะได้กุ้งฝอยที่มีขนาดเดียวกัน
การปฏิบัติดูแลรักษาง่าย สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและบ่อซีเมนต์ การลงทุนต่ำ สามารถเพาะเลี้ยงได้ตลอดทั้งปี
- สำหรับการเลี้ยงนั้นเริ่มจากการรวบรวมกุ้งเพศเมียจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวน 80-100 ตัว แม่กุ้ง 1 ตัวมีไข่ได้ 200-250 ตัว
นำมาพักไว้ในกระชังผ้าขนาด 1x1x1 เมตร อย่างน้อย 1 คืน คัดเลือกเฉพาะกุ้งเพศเมียที่มีไข่แก่ ให้อาหารสำเร็จรูปที่มีโปรตีน 33%
ให้อาหารประมาณ 5% ของน้ำหนักตัว แบ่งให้ 2 ครั้งเช้าและเย็น ราว 3-4 วัน ไข่จะฟักออกมาเป็นตัว
จากนั้นแยกแม่กุ้งออกจากกระชัง แล้วคัดลูกกุ้งที่มีขนาดเดียวกัน เพื่อสะดวกในการจัดการเพาะเลี้ยง
นำลูกกุ้งที่ได้ไปอนุบาลในกระชังผ้าโอล่อนแก้ว ลูกกุ้งจะได้ 5 หมื่นตัว อาทิตย์แรกให้ไข่แดงต้มสุกเป็นอาหาร
อาทิตย์ที่ 2-4 ใช้ไรน้ำจืดขนาดเล็กเป็นอาหาร จากนั้นจึงให้อาหารสำเร็จรูปชนิดผง เป็นอาหารที่มีโปรตีน 40%
ให้อาหารในปริมาณ 10% ของน้ำหนักตัว ใช้เวลาอนุบาลเป็นเวลา 1 เดือน
จึงนำไปเลี้ยงในกระชังในบ่อดินหรือบ่อซีเมนต์ได้ 3-5 หมื่นตัว เลี้ยงอีก 2 เดือนสามารถขายได้
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คณะประมงฯ 0-5349-8178, 0-5387-3470-2 ต่อ 161

สุดยอดที่วีแห่งอนาคต พานาโซนิคเปิดตัว "ทีวีโปร่งใส"




นับตั้งแต่การเข้ามาของทีวีจอแบน ก็ยังไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นในโลกของโทรทัศน์ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อต่างประเทศรายงานว่า พานาโซนิค บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก ได้เปิดตัวทีวีต้นแบบที่ใช้แผ่นกระจกทั้งหมด ในงาน CEATEC electronics expo ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องก็ดูเหมือนทีวีปกติทั่วไป แต่เมื่อปิดทีวีจะเห็นว่าเป็นเพียงกระจกโปร่งใส ที่สามารถมองเห็นผนังด้านหลังได้

โดยพานาโซนิคอธิบายว่า นี่จะเป็นหน้าจอของอนาคต ซึ่งยืนยันว่าพานาโซนิคเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดทีวีโปร่งใส ในกรณีที่คู่แข่งรายอื่นมีแนวคิดทีวีโปร่งใสคล้ายกัน

สำหรับทีวีโปร่งใสดังกล่าวเป็นการใช้เทคโนโลยี OLED (organic light-emitting diode) ซึ่งเป็นจอภาพที่มีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม ที่มีส่วนประกอบเป็นสารอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงเองได้เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้า 

โดยผู้ใช้สามารถเลื่อนทีวีดังกล่าวเข้าด้านข้างของชั้นวางได้ ทำให้ง่ายต่อการหยิบของในชั้นด้านหลัง นอกจากนี้ยังใช้หน้าจอทีวีเป็นที่ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นในบ้านได้ด้วย

ทั้งนี้ พานาโซนิคเคยแสดงเทคโนโลยีนี้ในงาน CES ที่ลาสเวกัสมาแล้วในปีนี้ แต่วิศวกรของพานาโซนิคระบุว่าเวอร์ชั่นล่าสุดของทีวีโปร่งใสที่มาในงานนี้ใสขึ้นเมื่อปิด และเมื่อเปิดจะสว่างกว่ารุ่นก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความคืบหน้าว่าบริษัทกำลังสร้างทีวีโปร่งใสอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่พร้อมวางขายใน 3 ปีหรือมากกว่านั้นแน่นอน

Tags -

25 สุดยอดไอเดีย แต่งบ้านด้วยไม้ไผ่ใส่ความคิด เป็นของแต่งบ้าน สุดฮอต จากธรรมชาติ



จริงๆแล้ว ไม้ไผ่และท่อนไม้ขนาดต่างๆไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ สามารถมา DIY ไม้ไผ่ใส่ความคิด เป็นของแต่งบ้าน ประดิษฐ์ DIY ออกมาได้หลากหลายแนวอย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะเชื่อว่าเจ้าไม้ไผ่ที่เราเห็น จะสามารถแทรกตัวอยู่ได้ทุกมุมบ้าน ไม่ว่าจะไปสร้างความสวยงามให้ในสวน หรือภายในบ้าน ออกมาสวยไม่แพ้ของแต่งบ้านอื่นๆ
diy ไม้ไผ่ 1
ไอเดีย DIY ไม้ไผ่ ยังสามารถออกแบบได้หลายแนว ไม่ว่าจะเป้นแนวสมัยใหม่ แบบธรรมชาติ แบบร่วมสมัย นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นกิจกรรม งานอดิเรกที่เราสามารถทำในวันหยุดได้ พูดกันมาถึงขนาดนี้แล้วเราไปดูกันว่า ไม้ไผ่ จะนำมาดัดแปลงทำอะไรได้บ้าง กับ 25 ไอเดีย DIY ไม้ไผ่ใส่ความคิด เป็นของแต่งบ้าน ฮิปๆ จากธรรมชาติ

diy ไม้ไผ่ 2

diy ไม้ไผ่ 3

diy ไม้ไผ่ 4

diy ไม้ไผ่ 5

diy ไม้ไผ่ 6

diy ไม้ไผ่ 8

diy ไม้ไผ่ 9

diy ไม้ไผ่ 10

diy ไม้ไผ่ 11

diy ไม้ไผ่ 12

diy ไม้ไผ่ 13

diy ไม้ไผ่ 14

diy ไม้ไผ่ 15

diy ไม้ไผ่ 16

diy ไม้ไผ่ 17

diy ไม้ไผ่ 18

diy ไม้ไผ่ 19

diy ไม้ไผ่ 20

diy ไม้ไผ่ 21

diy ไม้ไผ่ 22

diy ไม้ไผ่ 23

diy ไม้ไผ่ 24

diy ไม้ไผ่ 25
diy ไม้ไผ่ ึ

ไอเดียปลูกผักสวน หมุนเวียนตามฤดูกาล ช่วยให้มีผักกินตลอดปี




ไอเดียปลูกผักสวนครัวในบ้าน หมุนเวียนตามฤดูกาลต่างๆ ทำให้บ้านมีผักปลอดภัยกินตลอดทั้งปี

การปลูกผักสวนครัวในบ้าน หมุนเวียน ตามฤดูกาลต่างๆ ทำให้บ้านมีผักปลอดภัยกินตลอดทั้งปี ในแต่ละช่วง ควรปลูกอะไรบ้าง การปลูกพืชผักแบบผสมผสานขั้นต้น ควรเลือกชนิดผัก ที่จะนำมาปลูกให้เหมาะสมกับฤดูกาล เพื่อให้ผักเจริญเติบโต แข็งแรงทนต่อโรดและแมลง ควรหมุนเวียนสลับชนิดหรือปลูกผักหลายชนิดในเวลาเดียวกัน
ผักสวนครัว ควรปลูกช่วงฤดูร้อน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ดังนี้
1.ผักชี
2.ต้นหอม
3.ผักบุ้งจีน
4.แตงกวา
5.ผักกาดหัว
6.ถั่วฝักยาว
7.ผักคะน้า
8.ผักกวางตุ้ง
9.ผักกาดขาว
10.มะระ
11.ผักกาดเขียว
12.แตงไทย
ผักสวนครัว ควรปลูกช่วงฤดูต้นฝน ช่วงพฤษภาคม – กรกฎาคม ดังนี้
1.ผักคะน้า
2.กุยช่าย
3.บวบเหลี่ยม
4.หอมแดง
5.ผักกวางตุ้ง
6.ข้าวโพดอ่อน
ผักสวนครัว ควรปลูกช่วงฤดูปลายฝน ช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม ดังนี้
1.ผักชีลาว
2.ผักโขม
3.กุยช่าย
4.ผักกวางตุ้ง
5.ผักคะน้า
6.ผักกาดขาว
7.หอมแบ่ง
8.มันเทศ
9.มะเขือเปราะ
10.มะเขือยาว
11.ผักกาดหอม
12.ผักบุ้งจีน
13.พริกขีหนู
14.พริกชีฟ้า
ผักสวนครัว ควรปลูกช่วงฤดูหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ดังนี้
1.หอมแบ่ง
2.กุยช่าย
3.กระเทียม
4.ขึ้นฉ่าย
5.กะหล่ำปลี หรือ กะหล่ำดอก
6.มะเขือเทศ
7.ผักกาดปลี
8.กะหล่ำปม

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://bit.ly/2FSf92K

เปิดราคา หมวกชาวไร่ชาวนาแบรนด์ Gucci




  ต้องยอมรับเลยว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นผู้นำทางแฟชั่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังและรู้จักกันไปทั่วทั้งโลกจริงๆ สำหรับ แบรนด์แฟชั่น Gucci เป็นบริษัทสินค้าแบรนด์เนมของอิตาลีแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ในเครือของ PPR 
         ล่าสุด ก็ทำเอาฮือฮาเป็นอย่างมากสำหรับคนไทยเลยทีเดียว เมื่อทางแบรนด์แฟชั่น Gucci ได้ทำหมวกเหมือนกับหมวกของชาวไร่ชาวนาออกมาจำหน่าย เปิดตัวในงาน รันเวย์ Gucci Cruise 2019 บอกเลยว่ารู้ราคาถึงกับหนาว โดยทางด้านเพจ หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ ได้เปิดราคาหววกดังกล่าว โดยระบุว่า....
        ดิฉันขอนำเสนอหมวกที่จะทำให้คุณโดดเด่นมีความเป็น Material Girl ที่สุดในเรือกสวนไร่นา ส่งตรงจากรันเวย์ Gucci Cruise 2019 ด้วยราคาเพียงใบละ $450 หรือราว 14,400 บาท #เพราะคันนาคือรันเวย์
Gucci Cruise 2019
แฟชั่นระดับโลก
ดูกันชัดๆ 
โหห
ยกระดับหมวกชาวไร่ชาวนามาก  
เป็นเงินไทยกว่า 14256.44 บาท 
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต 
ว้าว
สุดจัด
คอมเม้น
โหห
       หมวกใบละ 14,000 บาท ถ้าเทียบกับหมวกชาวไร่ชาวสวนชาวนาบ้านเรา ใบไม่กี่บาท บอกเลยว่าแฟชั่นยกระดับ เพิ่มมูลค่าได้จริงๆ 
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.net ขอขอบคุณข้อมูลจาก gucci.com, หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ